Home > เครื่องประดับระดับไฮเอนด์ > 10 เหตุการณ์ไฮไลท์ สะเทือนวงการแฟชั่นโลกตลอดปี 2018

10 เหตุการณ์ไฮไลท์ สะเทือนวงการแฟชั่นโลกตลอดปี 2018

อีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะเข้าสู่ปี 2019 อย่างเป็นทางการ สาวๆ ยังพอจำกันได้ไหมว่าตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา แวดวงแฟชั่นมีเรื่องราวที่เป็น Talk of the Town สั่นสะเทือนไปทั่วโลกบ้าง หากยังนึกไม่ออก Sanook! Women จัดมัดรวบมาเสิร์ฟไว้ที่นี่แล้วค่ะ

เพราะกระแส #MeToo หรือการแสดงจุดยืนในแคมเปญ Time’s Up เพื่อรณรงค์การคุกคามทางเพศ ในสังคมอเมริกันนั้น กลายเป็นประเด็นที่เหล่าดาราฮอลลิวูดต้องการเป็นกระบอกเสียงบอกต่อให้โลกรู้ว่าฉันแอนตี้การคุมคามทางเพศทุกรูปแบบ ทำให้แฟชั่นพรมแดงกลายเป็น "แฟชั่นชุดราตรีดำ" เพื่อเป็นสัญลักษณ์สนับสนุนประเด็นดังกล่าว เริ่มตั้งแต่งาน Golden Globe 2018 และงาน Grammy Awards 2018 เมื่อต้นปีที่เห็นได้ชัดเจน

การปรากฎตัวของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ที่ London Fashion Week

ทำเอาอึ้งกันทั้งวงการแฟชั่น เมื่อควีนเอลิซาเบธที่ 2 ปรากฏตัวที่งาน London Fashion Week เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยการเสด็จฯ ครั้งนั้น นับเป็นเซอร์ไพรส์ที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อน ทั้งยังถูกจับตามองถึงการปรับตัวของราชวงศ์ให้เข้ากับยุคสมัย เพราะควีนฯ ทรงมีท่าทีสบายๆ แย้มพระสรวลอย่างอารมณ์ดี ทำให้ภาพของราชวงศ์อังกฤษดูติดดิน ทันสมัย เข้าถึงง่าย ลบภาพจำที่ว่าผู้ที่ได้เข้าเฝ้าต้องแต่งตัวโก้หรู และต้องมีพิธีรีตองหลายขั้นตอนแบบเดิมๆ อีกต่อไป

>> อึ้งทั้งวงการแฟชั่น! เมื่อ 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ปรากฏตัวที่งาน London Fashion Week

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ข่าวใหญ่สะเทือนวงการแฟชั่นโลกก็คือการประกาศชื่อตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ประจำแฟชั่นเฮ้าส์สัญชาติฝรั่งเศสชื่อก้องโลก อย่าง Louis Vuitton โดยงานนี้ ได้เจ้าพ่อสตรีทคัลเจอร์ที่หาตัวจับยากสุดๆ ในนาทีนี้ อย่าง Virgil Abloh มากำหนดทิศทางผลงานแฟชั่นฝั่ง Menswear และชื่อของเขาก็วงเวียนอยู่ตามหน้าเพจแฟชั่นตลอดปี

เรียกได้ว่า "ดัชเชสเมแกน" กลายเป็น Muse คนใหม่แห่งวงการแฟชั่นระดับโลกและราชวงศ์อังกฤษ ที่ไม่ว่าจะหยิบจับเสื้อผ้าหรือแฟชั่นชิ้นไหนขึ้นมาสวมใส่ออกงาน ก็เป็นกระแสได้เสมอ เริ่มตั้งแต่การจุดกระแส "ปรากฏการณ์เมแกน" ที่สาวๆ ทั่วโลกแห่กันไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าหรือกระเป๋าที่เธอใช้จนเกลี้ยงสต๊อกหรือแม้กระทั่งลุคการแต่งตัวของเมแกนที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอเมื่อได้ไปปรากฎตัวในที่สาธารณะตลอดปีที่ผ่านมา แต่ปีหน้าก็คงยังเป็นเช่นนั้น

ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ พระชายาเจ้าชายแฮร์รี่

นับเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้สาวกแฟชั่นทั่วโลกในปีที่ผ่านมาเหลือเกินกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาของ เคท สเปด หรือ เคท วาเลนไทน์ ดีไซเนอร์และผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับชื่อดังอย่าง Kate Spade ซึ่งเธอเสียชีวิตที่อพาร์ตเมนต์ส่วนตัว ในย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เวลาประมาณ 10.20 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ

เพราะเธอคือดีไซเนอร์ผู้เป็น "ตำนานแห่งวงการแฟชั่น" ด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของสเปด ทำให้เธอคือดีไซเนอร์ผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลกในเวลาต่อมา โดยเฉพาะกระเป๋าถือ ซึ่งเป็น A Must ที่วัยรุ่นผู้หญิงทั่วโลกบรรจุไว้ใน Wish List กระเป๋าใบแรกของใครหลายๆ คน ดีไซเนอร์ที่ทิ้งสไตล์ไว้ให้โลกจดจำ

วงการแฟชั่นโลกต้องสั่นสะเทือนอีกระลอกในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อแฟชั่นเฮ้าส์สุดขลังสัญชาติอังกฤษอย่าง Burberry ปรับโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งใหญ่ ถึงขั้นเรียกว่าเป็น "การปฏิวัติ" ก็คงไม่เวอร์เกินไปล่ะมั้ง ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ดั้งเดิมของแบรนด์ให้กลายเป็นฟอนต์เรียบง่ายสไตล์มินิมอลพร้อมด้วยการเปิดตัวลายโมโนแกรมสีสันแสนสดใสผลงานการออกแบบของ ปีเตอร์ ซาวิลล์ (Peter Saville) กราฟิกดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ

โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพลิกโฉมแบรนด์หรือกำหนดทิศทางของ Burberry ในครั้งนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ หากไม่ใช่ ริคคาร์โด ทิชชี่ (Riccardo Tisci) อดีตครีเอทีฟไดเรคเตอร์แห่ง Givenchy ที่ย้ายค่ายมากุมบังเหียนให้กับ Burberry ทั้งนี้ ยังหมายรวมไปถึงการปรับลุคครั้งใหญ่ของ Celine ในปีที่ผ่านมาเอง ก็สร้างความฮือฮาให้กับชาวโลกสายแฟ (ชั่น) มิใช่น้อย

จุดนี้ เวลาช้างมาฉุดก็หยุดความร้อนแรงของ Off-White ไม่ได้จริงๆ เพราะจากรายงานของ Lyst เว็บไซต์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่นรายใหญ่ของโลก หรือเว็บไซต์เช็กเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคในอุตสาหกรรมแฟชั่น ได้ระบุว่าแบรนด์ Off-White ได้พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ร้อนแรงที่สุดในโลก แซง Gucci และ Balenciaga ไปแล้วในไตรมาสล่าสุด งานนี้ ในปี 2019 คงต้องมาลุ้นกันไปยาวๆ ว่า Virgil Abloh ไดเรกเตอร์คนเก่ง จะสามารถรักษาอันดับไว้ได้หรือไม่?

>> Off-White ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 แบรนด์แฟชั่นที่ร้อนแรงที่สุดแซง Gucci และ Balenciaga

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง เมื่อ Chanel แบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ ขอโบกมือลาการรังสรรค์ผลงานแฟชั่นจากหนังสัตว์หายาก อาทิ หนังจระเข้, หนังตะกวด, หนังงู, หนังกระเบน อาจรวมไปถึงขนสัตว์ด้วย หลังจากที่แบรนด์เนมหลายๆ แบรนด์ เริ่มประกาศยุติการใช้หนังหรือขนสัตว์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแถลงการณ์ดังกล่าว ถูกจัดขึ้นในคืนก่อนงาน Chanel Pre-Fall 2018 Metiers d’Art show จะเริ่มขึ้น

มาม่าชามโตส่งท้ายปีจริงๆ สำหรับ Dolce & Gabbana กับประเด็นดราม่าแคมเปญโฆษณาของแบรนด์ ที่มีเนื้อหาไปในทางหมิ่นวัฒนธรรมจีน สร้างความหัวร้อนให้แก่ชาวจีนเป็นอย่างมาก แถมยังมีแชทหลุดของ สเตฟาโน กาบบาน่า ผู้ก่อตั้งแบรนด์ พูดถึงประเทศจีนในทางเสียๆ หายๆ ทำให้ D&G โดนเล่นงานอย่างหนัก ทั้งถูกแคนเซิลแฟชั่นโชว์ที่เซี่ยงไฮ้กระทันหัน, นางแบบจีนแห่ถอนตัวไม่ขอร่วมงาน นี่ยังไม่รวมกระแสในโซเชียลมีเดีย ที่นับว่าโดนเละ จนไม่รู้ว่าแบรนด์จะสามารถได้ผุดได้เกิดในตลาดแฟชั่นจีนแผ่นดินใหญ่หรือไม่?

>> "ใหม่-มาริโอ้" อดเดินแฟชั่นโชว์ที่เซี่ยงไฮ้ เหตุเพราะดราม่าเหยียดเชื้อชาติของ Dolce & Gabbana

>> สองผู้ก่อตั้ง D&G ขอโทษเหตุคลิปหมิ่นวัฒนธรรมจีน

>> สรุปดราม่า "Dolce & Gabbana" ลุกเป็นไฟ! หลังปล่อยคลิปดูถูกคนจีน จนโดนบอยคอตต์

ปิดท้ายด้วยข่าวใหญ่สดๆ ร้อนๆ เมื่อ ราฟ ซีมงส์ (Raf Simons) หนึ่งในดีไซเนอร์ผู้ทรงอิทธิพลในแฟชั่นฝั่งอเมริกา ตัดสินใจโบกมือลาให้กับ Calvin Klein หลังจากที่มานั่งแท่นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ได้เพียงไม่ถึง 2 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่าวิสัยทัศน์การทำงานไม่ตรงกัน ส่งผลให้ในซีซั่นนี้ ไม่มีแฟชั่นโชว์ของ Calvin Klein ไปโดยปริยาย

ราฟ ซีมงส์ ดีไซเนอร์สัญชาติเบลเยียม อดีตครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Dior และ Calvin Klein

Leave a Comment