Home > เครื่องประดับระดับไฮเอนด์ > เริดหรูให้สุดกับ 10 อันดับแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ – Buymatresses

เริดหรูให้สุดกับ 10 อันดับแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ – Buymatresses

สำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมแล้ว เป็นกระเป๋าที่บรรดาสาวๆ ทั้งหลายต่างที่จะเลือกใช้ แต่ถ้าเราพูดถึงแบรนด์ไฮเอนด์ (Hi-End) ล่ะ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นแบรนด์ระดับสุดๆ ยิ่งถ้าใครได้ใช่หรือมีเป็นเจ้าของแล้วยิ่งดูหรู ดูไฮโซ แบรนด์เหล่านี้นอกจากจะมีราคาที่สูงแล้ว ยังต้องมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แต่ก็ใช่ว่าแบรนด์ไฮเอนด์จะมีแค่แบรนด์เดียวซะที่ไหน ดังนั้นจึงมักมีการจัดอันดับความสุดของแบรนด์ไฮเอนด์กันด้วย แน่นอนว่าไม่ได้พูดถึงมูลค่าทางการตลาดของแต่ละแบรนด์ แต่คนมักจะพูดถึงความเลอค่า น่าหลงใหล ความน่าสะสมที่สุด ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว แบรนด์ไหนจะอยู่ที่เหล่าไหร่กันบ้าง เราไปดู 10 อันดับแบรนด์กระเป๋าไฮเอนด์สุดหรูกันค่ะ

เริ่มด้วยแบรนด์เนมสัญชาติอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 163 ปี โดยเริ่มต้นมีชื่อเสียงจากการทำเสื้อโค้ทและเครื่องหนังมากเป็นร้อยปี คงความหรูหรามีระดับสไตล์ชาวผู้ดี ภายหลังได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งโลโก้แบรนด์ ทั้งซิกเนเจอร์ลายโมโนแกรมคลาสสิค เปลี่ยนจากความคลาสสิคไปสู่ความโมเดิร์น ก็ทำให้คุ้นเคยกันมากขึ้นติดตามากยิ่งขึ้น มีเสียงตอบรับทั้งทางบวกที่บอกว่าสวยดูดี แต่กระนั้นก็มีเสียงบอกกลับมาว่าทำให้ความหรูหราของแบรนด์ลดระดับลง แม้จะทำให้จับต้องได้ง่ายทันสมัยขึ้นแต่นั้นก็ต้องแลกมากับภาพลักษณ์ความเป็นไฮเอนด์ (Hi-End) ของแบรนด์ไป

เป็นหนึ่งในแบรนด์เนมที่แม้จะไม่ได้มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นร้อยปี แต่ก็เริ่มต้นครองใจสาวกแบรนด์เนมด้วยเอกลักษณ์สไตล์หวานๆ วินเทจ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปโคลเอในยุคปัจจุบันก็ไม่ได้มีดีแค่ความเป็นสาวน้อยวินเทจอีกต่อไป ยังมีการผสมผสานความเป็นเฟมินีนและนำสมัยขึ้น มีทั้งความเท่ มีอิสระ เรียบหรูดูแพง ทำให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น และหนึ่งในกระเป๋ารุ่นที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Tess (เทสส์) ที่โดดเด่นด้วย เครื่องประดับทรง “O” ที่ห้อยอยู่ด้านหน้า พร้อมสายหนังโค้งรอบกระเป๋า ซึ่งเป็นกระเป๋าอีกใบที่ถูกนำกลับมาทำใหม่อยู่เรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรแบรนด์นี้ยังเป็นที่รู้จักน้อย เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ อาจเป็นเพราะสไตล์ที่เจาะจงเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะประวัติศาสตร์ยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก

เฟนดิ เป็นแบรนด์เนมสัญชาติอิตาลี่ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานมากแบรนด์หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้เข้าร่วมในกลุ่มของสมาชิก LVMH (Moet Hennessy – Louis Vuitton) กระเป๋าของเฟนดิเอาชนะใจสาวกแบรนด์เนมได้ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ดูหรูหรา อย่างไลน์ของ PEEKABOO ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร สร้างภาพจำสินค้าแบรนด์เนมเฟนดิได้อย่างดี และมีการใช้ขนสัตว์มาทำกระเป๋ากระทั้งสัญลักษณ์โลโก้ FF ที่ทำเป็นลายโมโนแกรม

อันดับนี้มีสองแบรนด์ที่ร่วมอันดับด้วยกัน ซึ่งมาจากสัญชาติอิตาลี่ทั้งคู่ เป็นแบรนด์ที่บ้านเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยทั้งสองแบรนด์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากและเติบโตในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะฝั่งเอเชียเราในประเทศไทย และจีน เราจะได้เห็นลายโมโนแกรม ”GG” ของกุชชี่กันจนชินตา หรือจะเป็นกระเป๋าถือ Gucci GG Marmont กระเป๋าถือใบหรูที่ได้รับความนิยม อย่างมากตกแต่งด้วย โลโก้ GG เป็นเครื่องประดับหลักดูโด่ดเด่นกว่าใคร เป็นกระเป๋าทรง boy ที่ให้ความรู้สึกนุ่ม ผ่อนคลาย หรูหรา ไฮเอนด์ สวยแพง เช่นเดียวกับ ปราด้า ที่หลายคนอาจติดภาพแบรนด์จากสีดำเรียบหรูที่โด่ดเด่นที่สุดจากการใช้วัสดุผ้าไนลอน กับการออกแบบดีไซส์คลาสสิค สไตล์อิตาลี่ โดยกระเป๋ารุ่นสุดฮิตก็คือ Prada Saffiano ที่ผ่านกรรมวิธีพิเศษทำให้หนังทนทาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเท่าไหร่ ตอบโจทย์ได้ทั้งสวยหรูและทนทาน

แบรนด์เนมสัญชาติฝรั่งเศส บางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อเต็มๆ นัก แต่ถ้าหากพูดกว่ากระเป๋า ดิออร์ หลายคนก็อาจจะนึกภาพออก โดยแบรนด์นี้ก็มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานไม่แพ้กับคู่แข่งอย่างชาแนล ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือดีไซส์นั้นหรูหราพรีเมี่ยมแบบไม่จำเป็นต้องพูดถึง โดยรุ่นกระเป๋าที่โดดเด่นนั้นคงหนีไม่พ้นรุ่น Lady Dior ที่ตั้งชื่อตามเจ้าหญิงไดอาน่า ที่ทำให้วงการแบรนด์เนมต่างคลั่งไคล้ เรียกได้ว่าฮิตไม่มีตกเทรน ทำให้สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นคุณผู้หญิง (Lady) Dior กันไปตามๆ กัน

สำหรับแบรนด์นี้ต้องบอกได้เลยว่าเป็นแบรนด์เนมไฮเอนด์ (Hi-End) ที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในวงการแบรนด์เนมแล้วไม่ว่าจะคนในหรือคนนอกวงการแบรนด์เนมต่างเคยเห็นหลุยส์วิคตองผ่านตามาแล้วทั้งนั้น และก็เป็นหนึ่งในแบรนด์เนมที่คนไทยนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยกระเป๋าก็มีให้เลือกหยิบจับกันตั้งแต่หลักหมื่นนิดๆ ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง ไปจนถึงตัวที่มีราคาสูงถึงหลักล้าน และด้วยลายโมโนแกรม(Monogram) เป็นที่คุ้นตาผู้คนเป็นที่สุด แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้หลุยส์วิคตองลดความไฮโซพรีเมี่ยมของตัวเองลง เพราะนโยบายการตลาดที่แข็งแกร่ง “ไม่มีการลดราคาสินค้าลง” มีแต่จะปรับราคาเพิ่มขึ้นทุกปี จึงทำให้แบรนด์นี้ติดอยู่ในอันดับต้นๆ มาตลอดค่ะ

หนึ่งในแบรนด์เนมเก่าแก่กว่า 200 ปี เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์เนมที่เน้นทำการตลาดอย่างสุดขั่ว เพราะจุดขายของแบรนด์สุดไฮเอนด์ (Hi-End) แบรนด์นี้นั้นคือความขลังลึกลับเข้าถึงได้ยาก พิสูนจ์ได้จากหนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่ว่า ความหรูหราคือความฝัน โดยปกติแล้วแบรนด์นี้เองไม่มีการทำแผนการตลาด และน้อยครั้งที่จะทำไลน์สินค้าสำหรับขายลูกค้าสาวกแบรนด์เนมทั่วๆไป ไม่มีพรีเซนเตอร์ มีเพียงแค่เหล่าลูกค้าก็สามารถพิสูนจ์ความไฮเอนด์ ของแบรนด์ได้แล้วทั้ง Coco Chanel ผู้ก่อตั้งชาแนล Sir Arthur Conan Doyle นักเขียนเชอร์ล็อคโฮล์มที่โด่งดัง และยังมีอีกหลายคนที่เพียงแค่เอ่ยชื่อ สาวกแบรนด์เนมหรือคนธรรมดายังต้องรู้จัก ไม่ต้องพูดถึงว่าบุคคลระดับพวกเขา เลือกที่จะใช้กระเป๋าของดีมีคุณภาพแน่นอน แต่คงเป็นเพราะการที่ไม่เน้นเรื่องของการตลอดจึงทำให้ความไฮเอนด์ของแบรนด์นี้ถูกพูดถึงน้อยเกินไป

แบรนด์หรูหราที่ไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นกรรมวิธีการผลิต ราคา หรือประวัติศาสตร์อันยาวนาน ชาแนล คือหนึ่งในแบรนด์ที่สาวกแบรนด์เนมต่างเทใจใฝ่ฝันอยากครอบครอง ไม่ว่าจะเป็น Chanel Classic หรือ Chanel Boy ที่เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม ด้วยรูปลักษณ์และการทำการตลาดที่ไม่เน้นแฟชั่นจนเกินไป แต่เน้นความเรียบหรูมีระดับ ทำให้แบรนด์นี้ถูกหลายๆ คนเทใจให้เป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใช้งานหรือนักสะสม

คนส่วนใหญ่ยกให้เป็นแบรนด์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแบรนด์ไฮเอนด์สุดเลอค่า นอกจากกระบวนการผลิตความปราณีตในการตัดเย็บกระเป๋าแต่ละใบ ราคาที่ไม่มีต่ำกว่าหลักแสน สิ่งที่ทำให้ตัวแบรนด์ยิ่งดูมีค่ามากที่สุดคงหนีไม่พ้นเทคนิคการตลาด เพราะเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่นอกจากคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศในการผลิตกระเป๋าตลอดไปจนถึงกรรมวิธีการผลิต แอร์เมสยังคัดเฉพาะลูกค้าชั้นเลิศเท่านั้นอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการชื้อสองรุ่นยอดฮิตอย่าง Kelly และ Birkin เรียกได้ว่าต้องมีเหนื่อยกันบ้างหากต้องการสินค้าจาก Shop ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรายกให้แบรนด์นี้เป็นอันดับ 1 ในดวงใจเลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ 10 อันดับแบรนด์เนมไฮเอนด์มีแบรนด์ไหนเป็นแบรนด์โปรดของคุณกันบ้างหรือเปล่า จะเห็นว่าหลายๆ แบรนด์ ความไฮเอนด์ของแบรนด์ไม่ได้เกิดจากสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้แผนการตลาดในการยกระดับแบรนด์ตัวเองให้ดูมีเรื่องราว ยิ่งทำให้สินค้ามีความต้องการมากเท่าไหร่ นั่นก็ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่ต้องการหรือทำให้สาวกครอบครอง และสุดท้ายนี้ อันดับเหล่านี้เป็นอันดับที่เราได้จัดกันขึ้นเองโดยอ้างอิงจากความรู้สึก และหลายๆ องค์ประกอบ จริงๆ แล้วแบรนด์ระดับไฮเอนด์นั้นมีมากกว่านี้ แต่ว่าทางเราไม่ได้ยกมาพูด ซึ่งหวังว่าก็น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนนะคะ

Leave a Comment