ในยุค 2019 ที่สภาพสังคม เศรษฐกิจและปัจจัยด้านอื่น ๆ อีกมากมายรบกวนการใช้ชีวิตแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งการปล่อยให้ใจว้าเหว่ ไร้ซึ่งสิ่งยึดเหนี่ยว ความย่ำแย่ของเรื่องต่าง ๆ อาจจะพามนุษย์คนหนึ่งให้มุ่งสู่ทางที่แย่ลงเรื่อย ๆ และด้วยกระแสของเครื่องประดับและสิ่งของเสริมดวงที่อยู่คู่คนไทยมาตลอด ตอนนี้กระแสกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ โว้กจึงอยากจะแนะนำเครื่องประดับสายมูที่คุณต้องหามาใช้ผลักดันโชคชะตาและสร้างความมั่นคงให้จิตใจ เพราะนี่คือเครื่องดับสายมูที่สาว ๆ ห้ามพลาด!
1.Leila Amulets
1 / 3
ตะกรุดจาก Leila Amulets / ภาพ: @leila_amulets
2 / 3
ตะกรุดจาก Leila Amulets / ภาพ: @leila_amulets
3 / 3
ตะกรุดจาก Leila Amulets / ภาพ: @leila_amulets
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Leila Amulets แบรนด์เครื่องประดับสุดฮอตที่คนต่อแถวรอซื้อทั้งที่สยามดิสคัฟเวอรี่และสาขาใหญ่ที่เซนทรัล ลาดพร้าว คนที่มีความเชื่ออยู่ภายในจิตใจแห่เข้าหาเครื่องประดับสายมูที่ปรับเปลี่ยนโฉมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น มีความเป็นแฟชั่นไว้แมตช์กับลุคของสาว ๆ ยุคนี้ได้แบบไร้ขีดจำกัด แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความพิเศษที่ช่วยผลักดันความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความรัก การงาน ป้องกันภัยและอีกมากมาย ของดีแดนสยามจากสำนักและวัดดัง ๆ อย่างเช่น แมลงภู่คำหลวง เบี้ยแก้พญาเสือโคร่ง และอื่น ๆ ถูกรวบรวมให้สาว ๆ เสริมความปังทั้งด้านแฟชั่นและดวงชะตาในราคาตั้งแต่หลักพันกลาง ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ความขลังจะไม่คู่กับความน่ากลัวอีกต่อไป เพราะความสวยงามของมูเตลูมาเคียงคู่กับแฟชั่นได้อย่างน่าประทับใจผ่านฝีมือการสร้างสรรค์ตะกรุดแฟชั่นสายมูของแบรนด์ ไลลา อามูเลตส์ ของคุณจัน-จันทรา จันทร์พิทักษ์ชัย
2.Amulette de Cartier
1 / 3
จิวเวลรี่จากคอลเล็กชั่น Amulette de Cartier / ภาพ: Mademoiselle Shosho.
2 / 3
จิวเวลรี่จากคอลเล็กชั่น Amulette de Cartier / ภาพ: igem.ly
3 / 3
จิวเวลรี่จากคอลเล็กชั่น Amulette de Cartier / ภาพ: Cartier
มาอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ชื่อซีรีส์ว่า อามูเลตส์ แต่ปรับเปลี่ยนภาษาเป็นฝรั่งเศสตามรากฐานของแบรนเลยกลายเป็นอามูแลตต์ Cartier แบรนด์จิวเวลรี่ระดับท็อปของโลกเปิดตัวคอลเล็กชั่น Amulette de Cartier ขึ้นเอาใจสาวสายมูสุดหรูหรา ทางแบรนด์ได้ให้นิยามกับคอลเล็กชั่นนี้ว่า “เครื่องรางนำโชคที่เต็มไปด้วยความปราถนามากมาย” เป็นที่มาของการประดับอัญมณีในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเอกลักษณ์อันสอดคล้องกับสาว ๆ แต่ละคนมีตั้งแต่ทอง 18 เค เพชรเม็ดงาม ไข่มุกและวัสดุอื่น ๆ หลากหลายรูปแบบและสีสัน แต่คาร์เทียร์ยังคงความคลาสสิกไว้ด้วยอะไหล่สีทองและสีโรสโกลด์ที่ทำให้จิวเวลรี่แต่ละชิ้นดูลงตัวในรูปแบบของแหวน สร้อยคอ กำไลข้อมือ และตุ้มหู ทั้งหมดมีลักษณะวงกลมแบ่งเสี้ยวลักษณะเหมือน “Pacman” ที่พร้อมจะตอบสนองความปรารถนาเหมือนการอ้าปากรับโชคของตัวละครนี้ ปิดท้ายด้วยความเรียบง่ายแต่เลอค่าของซีรีส์ที่พร้อมช่วยกุมความโชคดีและทำให้คำอธิษฐานของสาว ๆ เป็นจริง
3.Pandora
1 / 3
ชาร์มใบโคลเวอร์นำความโชคดี / ภาพ: Pandora
2 / 3
ชาร์มรับความโชคดีประจำเทศกาลตรุษจีน / ภาพ: Pandora
3 / 3
ชาร์ม “Lucky in Love” เสริมดวงชะตาเรื่องความรัก / ภาพ: Get It Online Durban
หลังจากแวะเวียนไปหาซูเปอร์แบรนด์อย่างคาร์เทียร์มาแล้ว ตอนนี้เรากลับมาสู่แบรนด์สุดฮิตที่สาว ๆ ไทยคลั่งไคล้และเก็บสะสมความสวยในแบบของตัวเอง พูดขนาดนี้จะเป็นแบรนด์ไหนไปไม่ได้นอกจาก Pandora สาว ๆ อาจจะไม่ได้คิดถึงภาพลักษณ์แบรนด์นี้ในรูปแบบเครื่องรางเสริมโชค แต่แพนดอร่าไม่ทำให้เราผิดหวังเรื่องนี้เช่นกัน เพราะชาร์มที่เหล่าวัยรุ่นไทยนิยมสะสมเพื่อสร้างสรรค์กำไลข้อมือแสดงถึงตัวตนของตัวเอง มีทางเลือกเกี่ยวกับการเสริมดวงด้วย ใบโคลเวอร์ สัตว์และรูปทรงต่าง ๆ ที่แสดงถึงความโชคดีมีให้เลือกสรรมากกว่า 50 แบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรักจากชาร์มเด่นอย่าง “Lucky in Love” และความพิเศษของแบรนด์จากเดนมาร์กนี้คือทางเลือกที่หลากหลายเพื่อมิกซ์แอนด์แมตช์ความมูเข้ากับชาร์มทั่วไป ภาพลักษณ์แบรนด์จิวเวลรี่เข้าถึงง่าย มูเตลูแบบน่ารักมุมิน่าจะเป็นคำนิยามการเสริมดวงในแบบ “แพนดอร่า” ได้อย่างพอดิบพอดี
4.Charming Princess
1 / 3
กำไลข้อมือหินสีเสริมดวงด้วยปี่เซียะ / ภาพ: Charming Princess
2 / 3
หมูทองรับความโชคดีในปีหมู / ภาพ: Charming Princess
3 / 3
กำไลข้อมีสีแดงเสริมดวงด้วยปี่เซียะ / ภาพ: Charming Princess
ไทยก็แล้ว ยุโรปก็แล้ว ลองหันมาดูเครื่องรางแบบจีนกันบ้าง ร้านที่เน้นจุดขายไปที่เรื่องของหินสีที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ที่เราเลือกร้านนี้มาอยู่ในลิสต์เพราะว่าความโดดเด่นของเครื่องรางจีนซึ่งนำมาแมตช์กับแอ็กเซสเซอรี่สายมูสีทองต่าง ๆ ได้อย่างดี ความพิเศษอยู่ที่วัตถุแก้ชงรูปร่างเป็นสัตว์ในเทพนิยายอย่างปี่เซียะที่มีพลังอำนาจพอ ๆ กับพญามังกร ถ้าใครบูชาจะมีโชค เงินมีแต่เข้าไม่มีออก ช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายออกจากชีวิต เดิมทีคนจะนับถือบูชาสัตว์เทพไว้ในรูปแบบการพกติดกระเป๋าหรือตั้งบูชาไว้ที่บ้าน แต่แบรนด์นี้พิเศษเพราะความโดดเด่นของหินสีทำให้แบรนด์สามารถหยิบจับ 2 จุดเด่นมาผสมผสานกัน หรือแม้กระทั่งหยิบยกสัญลักษณ์ตามปีนักษัตรอย่างหมูและสร้อยข้อมือสีแดงแบบจีนดั้งเดิมมาจัดองค์ประกอบเป็นกำไลข้อมือได้อย่างลงตัว กลายเป็นเครื่องประดับสายมูเชื้อสายจีนที่สาว ๆ ห้ามมองข้ามเลยทีเดียว
5.Louis Vuitton
1 / 4
Lady Lucky Bracelet / ภาพ: Fashionphile
2 / 4
Lady Lucky Bracelet / ภาพ: Fashionphile
3 / 4
Lady Lucky Bracelet / ภาพ: Louis Vuitton
4 / 4
Lady Lucky Bracelet / ภาพ: reebonz
เราอาจจะเคยเห็น Louis Vuitton x Supreme กันมาแล้วแต่อาจจะยังไม่เคยเห็นหลุยส์ วิตตอง x มูเตลู ทางแบรนด์มีการสอดแทรกสัญลักษณ์ของความเชื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปในไอเท็มเครื่องประดับชิ้นเด็ด แบรนด์ระดับไฮเอนด์อาจจะไม่ได้เสริมโชคดวงชะตากับอย่างจริงจังเหมือนที่อื่น แต่แบรนด์จากฝรั่งเศสนี้หยิบเอาสัญลักษณ์แห่งการปลดล็อกสู่ความสำเร็จอย่างกุญแจมาให้สาว ๆ ไขประตูสู่สิ่งที่ปรารถนา กำไลข้อมือรุ่น Lady Lucky Key ที่มีการเล่นรายละเอียดใส่กุญแจเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นประดับด้วยเนมเพลตและโลโก้บ่งบอกความเป็นแบรนด์อย่างเด่นชัดสวยงามไม่เหมือนใคร เพิ่มเติมความหรูหราด้วยคริสตัลจาก Swarovski ใครอยากจะหาไอเท็มชิ้นเด็ดที่มีความมูเบา ๆ และเต็มไปด้วยความพิถีพิถันในการออกแบบนี่คือทางเลือกแรก ๆ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท ขอเตือนว่าตอนนี้เริ่มหายากแล้วใครยังไม่มีรีบหามาใส่ด่วน!
6.Harmenstone
1 / 4
The Hideaway / ภาพ: Harmenstone
2 / 4
The Classic | Blue Lace Agate / ภาพ: Harmenstone
3 / 4
The Moonchaser / ภาพ: Harmenstone
4 / 4
The Emperor Howlite / ภาพ: Harmenstone
ในช่วง 3-4 ปีก่อนกำไลหินสีเป็นสิ่งที่ฮิตมากในหมู่สาว ๆ รวมไปถึงหนุ่ม ๆ แต่กระแสในช่วงนี้ดรอปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ความมงคลและดีไซน์ไม่ได้หายไปไหน เหล่าขบวนหินสียังตั้งทัพให้เราได้ลองเลือกกันหลากสีหลายสไตล์ทั้งในเรื่องของความหมายและความสวยงาม แบรนด์นี้พิเศษตรงการใส่รายละเอียดในกำไล เราสามารถเลือกได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประเภทหิน ขนาดหิน จี้หรือชาร์ม ปิดท้ายความพิเศษด้วยการสลักชื่อ นอกจากนี้เรื่องความเป็นแบบ Made-to-measure คือสั่งทำตามขนาดจริงของข้อมือสาว ๆ โดยเฉพาะคืออีกหนึ่งความพิเศษ ไม่ต้องกังวลว่าไซส์เอส เอ็ม แอล จะสร้างปัญหาความไม่พอดีอีกต่อไป ความพีคของร้านนี้เน้นความหมายของหินตั้งแต่ขจัดภัยอันตราย เสริมเสน่ห์ บรรลุผลสำเร็จ คลายเครียด และอื่น ๆ ตามแรงยึดเหนี่ยวเหมือนเป็นพลังเสริมที่คอยผลักดันให้การกระทำสำเร็จได้ดียิ่งขึ้นด้วยจิตใจที่เชื่อมั่นจากหินสีเหล่านี้ ใครสนใจหาซื้อได้ที่สยามเซนเตอร์ ไอคอนสยาม วันนิมมานและเซนทรัล เฟสติวัลสมุย หรือถ้าใครไม่สะดวกแบรนด์นี้ก็มีการเปิดให้สั่งซื้อช่องทางออนไลน์เช่นกัน
7.Foundrae
1 / 5
จิวเวลรี่ที่บ่งบอกถึง Passion ในคอนเซปต์ “With Wings We Fly” / ภาพ: Foundrae
2 / 5
คอนเซปต์ความฝันกับชื่อ “Dream”/ ภาพ: Foundrae
3 / 5
สัญลักษณ์ที่ผลักดันความแข็งแกร่งในตัวเราจากคอนเซปต์ “Strength”/ ภาพ: Foundrae
4 / 5
สร้อยคอและต่างหูจากคอนเซปต์ “Resilence”“” / ภาพ: Foundrae
5 / 5
สัญลักษณ์ที่บ่งบอกความรักอันเที่ยงแท้ ที่จะคอยส่งเสริมชะตาความรักของสาว ๆ ในคอนเซปต์ “True Love” / ภาพ: Foundrae
Foundrae แบรนด์ของคู่สามีภรรยาชื่อ Murat และ Beth Bugdaycay ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 กลายเป็นแบรนด์จิวเวลรี่ที่สอดแทรกสัญลักษณ์ความหมายแง่บวกคอยค้ำชูจิตใจให้สาว ๆ ในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างดี รูปทรงต่างหลายแบบถูกตีความผ่านหลากหลายกรอบวัฒนธรรมก่อนจะมาอยู่ในรูปแบบเครื่องประดับสั่งทำของแบรนด์นี้ ความหมายตั้งแต่การปกป้องของเทพอียิปต์ A True Love Knot ซึ่งส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านความรัก หรือจะเสริมความแข็งแกร่งด้วยเสือและดาวที่นำเสนอผ่านแนวคิดความแข็งแรงของสิงโตและการส่องสว่างของดาวที่ไว้เสริมพลังบวกให้กับสาว ๆ ดำรงชีวิตไว้อย่างแข็งแกร่ง ฟาวน์เดรย์ถือเป็นแบรนด์ไฟน์จิวเวลรี่ที่สามารถตอบสนองความต้องการแง่ความหมายกับสายมูได้เป็นอย่างดี และไม่ใช่มูธรรมดาแต่เป็นรูปแบบยูนิเวอร์แซล คือเป็นแง่มุมจากหลากหลายวัฒนธรรม ฉะนั้นเรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมความเชื่อสากลจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาของฝีมือการทำงานศิลปะในระดับสูง ต้องบอกว่านี่คือเครื่องประดับสายมูที่มีความหมายและรูปลักษณ์เป็นสากลที่สุดในโลก สาว ๆ คนไหนต้องการจะมูแบบมีผลรอบโลก เราแนะนำเลยว่าต้องลองสัมผัสฟาวน์เดรย์สักครั้งในชีวิต...
เรื่องความเชื่อโชคชะตา ดวง และสิ่งที่มองไม่เห็นอื่น ๆ เป็นเรื่องส่วนบุคคล แล้วแต่ว่าใครจะเชื่ออะไรรูปแบบไหน แต่ที่แน่ ๆ ความสวยงามและพลังของเครื่องประดับและจิวเวลรี่เหล่านี้สะท้อนถึงการคงอยู่ของความเชื่อรอบตัวเราในทุกยุคทุกสมัยเพียงแต่มันปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับความเป็นไปของโลกมากขึ้น ความทันสมัยแต่ยังสอดแทรกแง่มุมนี้ไว้ตอบโจทย์คนยุคนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าใส่แล้วเกิดผลหรือไม่นั่นต้องใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลไม่ควรก้าวก่ายกัน หากเชื่อแล้วไม่เดือดตัวเองและคนรอบข้างจงทำในสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่น และผลสุดท้ายพลังบวกจะเกิดขึ้นอย่างน้อยก็ภายในจิตใจของเรา