Home > เครื่องประดับระดับไฮเอนด์ > อัพเดตเทรนด์จิวเวลรี่สุดแปลกแต่ปัง จาก 2 ดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ มาแรง!!

อัพเดตเทรนด์จิวเวลรี่สุดแปลกแต่ปัง จาก 2 ดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ มาแรง!!

โลกหมุนไว ไปเร็วแค่ไหนถามใจดู…โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์ของเครื่องประดับชั้นสูงอย่างจิวเวลรี่ซึ่งล่าสุด HELLO! มีโอกาสได้พูดคุยกับ 2 ดีไซเนอร์นักออกแบบจิวเวลรี่ ที่มีผลงานโดดเด่นจนได้รับการยอมรับจากเวทีระดับโลก แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั่น คือ เอกลักษณ์รูปแบบการดีไซน์ที่ล้ำสมัยโดดเด่น จนโดนถูกอกถูกใจทั้งคนไทย และชาวต่างชาติไม่น้อย

เริ่มกันที่แบรนด์ JITTRAKARN (จิต-ตระ-การ) ผลงานการออกแบบจากดีไซเนอร์สาวคลื่นลูกใหม่จากวงการอัญมณีไทย ‘คุณจิตรกานต์ บรรเทิงไพบูลย์’ ด้วยแนวคิดการออกแบบเครื่องประดับในรูปแบบ Contemporary ที่มีดีไซน์ Futuristic การนำเสนอผลงานในรูปแบบแฟนตาซีที่สวมใส่ได้จริง ซึ่งชิ้นงานของแบรนด์ Jittrakarn สะดุดตากับ สไตลิสต์ ดีไซเนอร์ จนได้รับการคัดเลือกเป็นเครื่องประดับที่ใช้เดินแฟชั่นโชว์ รวมถึงมีศิลปิน ดารา นักแสดง หยิบไปใส่ ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมา แบรนด์ JITTRAKARN ได้ไปร่วมงานสำคัญระดับโลกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Maison & Objet ที่กรุงปารีส หรือ Milan Design Week ที่เมืองมิลาน และยังได้รับรางวัลด้านการออกแบบมากมาย เช่น รางวัล Demark Gmark และ Red Dot ที่พิสูจน์ถึงความสามารถด้านการออกแบบจิวเวลรี่ที่แปลกใหม่และสวยงาม

แม้ว่าเครื่องประดับชิ้นใหญ่ที่ใช้พลาสติกเป็นวัสดุหลักจะไม่ได้รับความนิยมในหมูผู้บริโภค แต่บอกเลยว่าแต่ละชิ้นนั้นดีกรีไม่ธรรมดา เพราะล้วนแต่ได้รางวัลจากเวทีระดับนานาชาติมาแล้วทั้งสิ้น

“ชาวต่างชาติมองว่าเครื่องประดับที่ผลิตในไทยมีคุณภาพดี เพราะไทยเป็นทั้งแหล่งวัตถุดิบและโรงงานผลิต ส่วนในการขายจิวเวลรี่นั้น ต้องหาจุดสมดุลระหว่างตัวตนของนักออกแบบ กับกลุ่มลูกค้าให้ได้ จึงจะประสบความสำเร็จทางการตลาด ซึ่งแบรนด์ใช้วิธีการผลิตเครื่องประดับชิ้นใหญ่เพื่อสะท้อนตัวตนของแบรนด์ เป็นชิ้นที่คนสนใจ สะดุดตา และมีเครื่องประดับชิ้นเล็ก สวมใส่ง่ายในชีวิตประจำวันวางขาย ซึ่งเป็นชิ้นที่ทำรายได้ให้แบรนด์ ในส่วนของการทำการตลาด เห็นด้วยว่าการร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เป็นเวทีที่สำคัญในการพบปะลูกค้า ตลอดทั้งการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารแบรนด์กับลูกค้า” คุณจิตรกานต์กล่าว

ในฐานะของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ เจ้าของผลงานการออกแบบสุดครีเอต ทำให้คุณจิตรกานต์ฝากข้อคิดให้กับแบรนด์ใหม่ๆ ว่า “การสร้างแบรนด์เราต้องหาตัวตนให้ได้ก่อน อย่าเป็นแค่อีกแบรนด์ที่ขายในไอจี ต้องหาจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจเรื่องวัสดุ หรือ passion ของเราเอง”ฃ

แบรนด์ Carletta Jewellery ผลงานการออกแบบของ ‘คุณสุรศักดิ์ มณีเสถียรรัตนา’ ก็ประสบความสำเร็จสร้างสรรค์ผลงานที่ได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง

“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ทุกคนเสิร์ชกูเกิลเป็นหมด ความสนใจในการเสิร์ชเรื่องใดบ่อยๆ จะเป็นตัวกำหนด เทรนด์กลายๆ ถ้าทุกแบรนด์เดินตามเทรนด์ สินค้าจะเหมือนกันหมด ไม่มีความแตกต่าง การรับรู้เทรนด์โลกเป็นสิ่งที่ดีแต่จะรับมาใช้ทั้งหมดไม่ได้ ต้องนำมาปรับให้เข้าบุคลิกของแบรนด์ ซึ่งดีไซเนอร์ต้องมีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อสร้างสรรค์สินค้าให้แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร ผมว่าทุกแบรนด์จำเป็นต้องมีเรื่องเล่า (Story) นะ อย่างแบรนด์ Carletta ทุกคอลเลคชั่นมีเรื่องราว สินค้าทุกชิ้นสามารถเล่าที่มาได้หมด”

ยกตัวอย่างเช่น แหวนของแบรนด์ Carletta Jewellery ที่ชื่อว่า Only World นั้นทำมาจาก Lapis Lazuli จะมีทั้งประกายสีทอง ฟ้า ขาว อยู่ในเนื้อพลอยที่เป็นทรงกลม เวลาสวมใส่แล้วมองดูราวกับว่าอยู่ในอวกาศแล้วมองกลับมาที่โลกที่มีน้ำทะเลสีฟ้าปกคลุม ตัวเรือนดีไซน์ลักษณะเหมือนอุ้งมือที่กำโลกไว้ เป็นแหวนที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูมีอำนาจ ทรงพลัง เป็นการสื่อสารเรื่องราวไปถึงผู้สวมใส่ ซึ่งลูกค้าจะชอบเครื่องประดับที่มีเรื่องราว เล่าต่อได้ และสะท้อนบุคลิกของตนเอง

เรียกได้ว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านประสบการณ์ของ 2 ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์จิวเวลรี่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทย และแนวทางสำคัญของทั้งคู่ คือการค้นหาตัวตนของตัวเองให้เจอ และนำพาตัวเองไปสู่โลกภายนอก เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้รู้จักสัมผัสผลงานของเรานั่นเอง ซึ่งก็มีหน่วยงานภาครัฐกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เข้ามาเป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยผลักดันผลงานของคนไทยให้ออกสู่ตลาดโลกผ่านการจัดการแฟร์ด้วย

Leave a Comment